ReadyPlanet.com


ฝึกวินัยการเงินเพิ่มความมั่งคั่ง


ฝึกฝนวินัยการเงินช่วยกันเพิ่มความมั่งคั่ง

"คอฟฟีย์แห่งซีเอ็นเอ็น มันนี่ และหยางจากฟอร์จูน มีข้อมูลช่วยคนไทยทั้งในและต่างประเทศ ฝึกฝนวินัยการเงินเพิ่มความร่ำรวยให้ตนเองและครอบครัว"

คราวที่แล้ว คอลัมน์นี้ได้นำเสนอเนื้อหาสาระน่าสนใจเกี่ยวกับการออมของเซเลนา มาราเนียน คอลัมนิสต์ของ FOOL.COM ซึ่งเป็นข้อมูลดีมีประโยชน์ต่อเยาวชนคนไทย ได้นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อเปลี่ยนแปลงนิสัยลดความฟุ่มเฟือย เพิ่มการอดออมให้มากขึ้นได้

ในครั้งนี้มีข้อมูลต่อเนื่อง ที่จะช่วยผู้ใหญ่กับเยาวชนคนไทยทั้งในและต่างประเทศ ได้มีแนวความคิดเพิ่มเติม เพื่อนำไปใช้เลือกปฏิบัติ ฝึกฝนวินัยการเงินเพิ่มความมั่งคั่งร่ำรวยให้กับตนเอง และครอบครัวได้ โดยคราวนี้เนื้อหากับข้อมูล จะเป็นผสมผสาน ระหว่าง "เคล็ดลับสร้างนิสัยรับผิดชอบการเงิน" ของ ลอรา ที. คอฟฟีย์ แห่งซีเอ็นเอ็น มันนี่ และ "กฎช่วยให้รวย" ของ เจีย ลีน หยาง ผู้สื่อข่าวของ ฟอร์จูน นิตยสารเศรษฐกิจชั้นนำของสหรัฐ

ทั้งนี้คำแนะนำของคอฟฟีย์ และหยาง ล้วนเป็นข้อมูลที่มีเนื้อหาสาระแนะแนวการออมกับการลงทุนในแต่ละช่วงอายุ ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นหนทางง่ายที่จะปล่อยให้เงินทำงานและเพิ่มจำนวนมากขึ้น สร้างความมั่งคั่งให้เจ้าของเงินได้

@"เริ่มต้นออมตั้งแต่อายุยังน้อย" เป็นกฎข้อแรกสำหรับหยางแนะนำคนไทยทุกเพศทุกวัย ต้องปฏิบัติตามหากคิดอยากรวยเร็วรวยไว เพราะเขาเชื่อว่าอายุที่เริ่มต้นลงทุน จะเป็นตัวกำหนดได้ว่าเจ้าของเงินจะสร้างความร่ำรวยให้ตนเองได้มากน้อยเพียงใด

หยางยกตัวอย่างเช่น นายA เริ่มแยกเงิน แบ่งเป็นเงินออมไว้ 100 ดอลลาร์ทุกเดือน ตั้งแต่อายุได้ 22 ปี ในแต่ละปีเงินของ A เพิ่มขึ้น 8% A ยังคงออมเงินไปเรื่อยๆ เป็นเวลานาน 10 ปี ก่อนหยุดออมและปล่อยให้เม็ดเงินที่สะสมไว้นั้นงอกเงยต่อไป

นิสัยทางการเงินของ A ตรงข้ามกับนางสาว B ที่รอคอยจนตนเองอายุ 32 ปี ก่อนจะคิดแบ่งเงินออมไว้ เดือนละ 100 ดอลลาร์ และสมมติให้เงินก้อนนี้เพิ่มขึ้นปีละ 8% เช่นกัน B ยังคงออมเงินไปจนกระทั่งอายุ 64 ปี และเมื่อ A กับ B เกษียณอายุ A จะมีเงินเก็บไว้ใช้ยามเกษียณ 234,600 ดอลลาร์ ขณะที่ B มีเงินเก็บไว้ใช้ยามเกษียณเพียง 177,400 ดอลลาร์

@ "แจกแจงแผนการใช้จ่าย" ความคิดแรกนี้เป็นของคอฟฟีย์ ที่ต้องการให้ทั้งเยาวชนและผู้ใหญ่คนไทยรู้จักใช้สติมีเหตุมีผล รู้ว่าเงินของตัวเองไหลออกจากกระเป๋าไปอยู่ที่ไหนบ้าง

หยางขอให้เด็กๆ หัดคิด หรือผู้ใหญ่ต้องนึกเสมอถึงความจำเป็นที่จะต้องเขียนว่า มีรายการใช้จ่ายอะไรในระยะ 1 สัปดาห์ หรือภายใน 1 เดือน

หาโอกาสเสมอ ที่จะคิดวิธีปรับนิสัยลดค่าใช้จ่าย อย่างรายจ่ายเพื่อความบันเทิง เสื้อผ้าหรืออุปกรณ์กีฬาที่เกินความจำเป็น แต่ต้องไม่ลืมเผื่อค่าใช้จ่ายสำคัญในบ้าน เช่น สินเชื่อบ้านหรือรถยนต์

@ "ขยันออมเงินไว้" การออมเงินถือเป็นหัวใจสำคัญนำไปสู่ความร่ำรวย และคอฟฟีย์เห็นด้วย เพราะเธอเป็นผู้เสนอแนะให้เจ้าของเงิน คิดหาหนทางอยู่เสมอ ที่จะหักเงินรายได้จากทุกทางเข้าบัญชีออมทรัพย์โดยตรง

แต่จะให้ดีกว่านั้น คอฟฟีย์อยากให้คนไทยฉลาดเลือกใช้บริการสถาบันการเงิน ที่เสนอเงื่อนไข ให้บริการตรวจข้อมูล บริการฝากเงินฟรี หรือการยกเว้นค่าบริการกับค่าธรรมเนียมผ่านเอทีเอ็มหรือผ่านสำนักงานต่างสาขา

เพราะบางครั้งเม็ดเงินที่ออมอาจมีมูลค่าไม่มากมาย หากสถาบันการเงินมีเงื่อนไขคิดค่าบริการ หรือคิดค่าธรรมเนียมตามวงเงิน ยิ่งเงินฝากมีมูลค่าไม่มาก แต่ถูกหักค่าบริการค่าธรรมเนียมเกินความจำเป็น ย่อมเป็นสิ่งไม่คุ้มค่าสำหรับเจ้าของเงิน

@ "อย่าพลาดสมัครกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ" หากผู้ใหญ่ตอนต้น หรือคนไทยเริ่มชีวิตมนุษย์ทำงานท่านใดยังไม่ได้สมัครกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัท หยางแนะนำให้รีบสมัครเสียตั้งแต่วันนี้ เพราะการสะสมเงินในกองทุนประเภทนี้มีแต่ได้และได้เพิ่มกว่าที่ออม

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพถือเป็นเครื่องมือการออมที่ดี และดีกว่าเครื่องมือออมอื่นๆ เพราะนอกจากจะออมเงินในส่วนของพนักงานแล้ว ตามกฎระเบียบการลงทุนเป็นมาตรฐานสากล พนักงานยังจะได้รับเงินช่วยเหลือ เป็นเงินสมทบฟรีอีกส่วนหนึ่งจากนายจ้างด้วย

ที่สำคัญเงินของพนักงานในกองทุนประเภทนี้ ภายใต้กฎหมายเกี่ยวกับกองทุนบำเหน็จบำนาญสากลทั้งในสหรัฐและไทย ยังกำหนดให้บริษัทหรือนายจ้าง สามารถนำเงินในกองทุนไปต่อยอด ด้วยการว่าจ้างให้ผู้จัดการกองทุนนำเงินที่ได้รับมอบไปบริหาร ให้เกิดผลตอบแทนงอกเงยในอนาคตได้

@ "เลี่ยงก่อหนี้บัตรเครดิต" คำแนะนำของคอฟฟีย์อาจเป็นการตอกย้ำ เพื่อไม่ให้คนไทยทุกวัยหลงอยู่ในวังวนหนี้บัตรเครดิต โดยแนะนำว่าบัตรเดบิตจะช่วยสร้างนิสัยการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง

เพราะทุกครั้งที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต สถานที่หรือแหล่งที่ไปจับจ่ายใช้สอย จะหักเงินของเราในบัญชีธนาคารทันที หมายความว่าเจ้าของเงินจะต้องใช้จ่ายตามกำลังเงินที่มีอยู่จริง และไม่ได้ยืมเงินในอนาคตมาใช้

แต่ในกรณีที่ยากจะหลีกเลี่ยง ชีวิตนี้จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิต ขอให้ติดนิสัยที่จะชำระคืนให้มากกว่าจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องชำระในแต่ละเดือน และต้องชำระคืนให้ตรงเวลาเสมอ

@ "จัดระเบียบหนี้กับดอกเบี้ยบัตรเครดิต" ไอเดียนี้เผื่อไว้ สำหรับคนไทยลองปฏิบัติตามคำแนะนำของคอฟฟีย์ไม่ได้เต็มที่หรือไม่ได้ทั้งหมด และยังไม่สามารถหนีคำว่าหนี้พ้น

เมื่อมีหนี้ที่ปลดเปลื้องเท่าไร ยังไม่หมดเสียที คำแนะนำของหยางข้อนี้ น่าจะช่วยเสริมไอเดียของคอฟฟีย์ได้ ในการคิดหาทางช่วยผ่อนปัญหาที่หนักให้กลายเป็นเบาลงหรือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

โดยหยางแนะแนวทางเจ้าของบัตร แก้ปัญหาหนี้ด้วยการพิจารณาจากบัตรเครดิตทุกใบซึ่งมีมูลหนี้ไม่เท่ากัน ขอให้เจ้าของบัตรเครดิตจัดลำดับดอกเบี้ยที่บัตรแต่ละใบที่เรียกเก็บ และให้จัดอันดับบัตรที่คิดดอกเบี้ยแพงสุดอยู่อันดับแรกที่ต้องสะสาง จัดการคืนเงินต้นกับดอกเบี้ยให้เร็วที่สุด

โดยปกติแล้ว บัตรเครดิตในสหรัฐ เรียกเก็บดอกเบี้ยแพงที่สุด 30% ซึ่งสูงกว่าบัตรเครดิตของธนาคารต่างชาติในไทยไม่มากนัก ในสหรัฐผู้บริโภคคนไทยที่ถือบัตรเครดิต สามารถตรวจสอบดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินแต่ละแห่งคิด ได้จากเวบไซต์ Bankrate.com

@"อายุยังน้อยให้เน้นลงทุนหุ้น" ยิ่งเจ้าของเงินมีเวลามากขึ้น หยางเชื่อว่าความเสี่ยงที่เจ้าของเงินควรรับต้องมากขึ้นตามไปด้วย หากอายุน้อยเพิ่งเริ่มต้นลงทุน 80-100% ของสินทรัพย์ทั้งหมด ควรลงทุนในหุ้น และไม่ควรคิดเอาชนะตลาดเป็นคำเตือนของหยาง

หยางอธิบายว่าแม้แต่ผู้จัดการกองทุนเก่งที่สุด ยังพ่ายแพ้กับการขึ้นลงของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ดังนั้นการไล่ให้ทันทำผลตอบแทนได้มากกว่าดัชนีตลาด จึงไม่ควรทำ

เพื่อหลีกเลี่ยงการติดกับดักความพยายามเอาชนะตลาดข้างต้น หยางแนะนำให้กระจายสินทรัพย์ และสร้างสมดุลให้พอร์ตตัวเองอย่างน้อยปีละครั้ง หรือจะใช้สูตรกับเครื่องมือตรวจสอบสินทรัพย์ ที่กองทุนมอร์นิ่งสตาร์มีให้เข้าไปใช้บริการฟรี จากเวบไซต์ http://www.morningstar.com/

@ "อย่าแห่ตามฝูง" หยางอธิบายคำแนะนำข้อสุดท้ายนี้ว่า วินัยการเงินข้อนี้เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญในการปลูกฝังนิสัยการเงินที่ดีในระยะยาว

หากเยาวชนหรือผู้ใหญ่คนใด ที่อยากลองปรับตัวเอง ให้เป็นนักลงทุนที่ต้องการจะทำเงินให้งอกเงยในระยะยาว ขอให้ยึดแนวคิดข้อนี้ไว้เลยว่า จะไม่รีบเคลื่อนไหวปรับกลยุทธ์ทุกครั้ง ที่ได้ข่าวร้อนหรือข่าวด่วนมา

หยางขอให้คนไทยที่อยากเป็นนักลงทุนรอบคอบใจเย็น ค้นคว้าหาข้อมูลให้ได้ที่มาที่ไปชัดเจน อย่างในสหรัฐมีเวบไซต์กลั่นกรองข่าวต่างๆ ได้อย่าง Investopedia.com เพื่อตรวจสอบข่าวว่า ข่าวที่เกิดขึ้นทำไมจึงเป็นข่าวร้อน และหากคำตอบที่ได้ เป็นเพราะมีการแห่เข้าไปช้อนซื้อหรือลงทุน หยางย้ำว่าขอให้อยู่ห่างการลงทุนประเภทนั้นไปเลย



BangkokBizNews
Last update : 9/10/2007 11:13:49 AM


ผู้ตั้งกระทู้ มวลสมาชิก :: วันที่ลงประกาศ 2007-09-17 15:36:16 IP : 125.24.160.205


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Admin by สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขพิษณุโลก จำกัด